น้ำยาเคลือบแก้ว คืออะไร ?
การเคลือบแก้วคืออะไร มีประโยชน์อย่าง เป็นคำถามที่หลายท่านสงสัย คุณสมบัติของเคลือบแก้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเคลือบแก้วแท้ หรือเคลือบแก้วเทียม เราควรศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจเคลือบแก้วรถยนตร์หรือมอเตอร์ไซต์ที่เราใช้งาน
เคลือบแก้วคืออะไร
การเคลือบแก้ว คือนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นในการเคลือบปกป้องสีรถได้ยาวนานกว่าการเคลือบ WAX ในสมัยก่อนๆ โดยจะมีการติดทนอยู่ที่ระดับ 1-2 ปีขึ้นไป ด้วยการเคลือบเพียงครั้งเดียว โดยน้ำยาเคลือบจะมีสารประกอบของซิลิก้า (Silica Dioxide) ซึ่งเป็นสารประกอบของ Quartz หรือผลึกแก้ว ซึ่งเมื่อเคลือบจะติดผสามเข้ากับชั้นสีรถเป็นลักษณะเหมือนฟิล์มแก้วบางๆปกป้องสีรถ พร้อมให้ความเงางาม
ทำไมต้องน้ำยาเคลือบแก้ว Glassklare 10H
1.ค่าระดับความแข็งของชั้นฟิล์มแก้วสามารถแบ่งได้ตั้งแต่ 1H – 10H ตาม Mosh Scale มาตรฐานสากล โดยใช้เครื่องตรวจวัดความแข็งหรือที่เรียกว่า Pencil Hardness Tester
2. ความเงางาม เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น : นวัตกรรมเคลือบแก้วนอกจากการปกป้องสีรถที่ดีแล้ว ยังให้ความเงางามของชั้นฟิล์มแก้วเมื่อเคลือบลงไปบนชั้นสีรถ ความเงานั้นจะติดทนยาววนานมากกว่า 1 ปีขึ้นไปด้วยการเคลือบเพียงครั้งเดียว โดยความเงางามของน้ำยาแต่ลแบรนด์จะแตกต่างกันออกตามส่วนผสม
3. ความหนาของชั้นฟิล์มแก้ว สามารถวัดค่าได้จากเครื่องวัดความหนา ก่อนเคลือบและหลังเคลือบแก้ว
[row_inner_3] [col_inner_3 span__sm=”12″] [row_inner_4] [col_inner_4 span__sm=”12″]4. น้ำไม่เกาะสีรถ สิ่งสกปรกเกาะสีรถได้ยากขึ้น (Hydrophobic Effect) วิธีการสังเกตคุณภาพของเคลือบแก้วคือสังเกตหยดน้ำบนชั้นสีรถ ลักษณะจะกลมนูน เหมือนหยดน้ำกลิ้งบนใบบอน สิ่งสำคัญคือการติดทนของเคลือบแก้ว น้ำจะไม่เกาะสีรถในระดับ 6 เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ตามการติดทนของเคลือบแก้วขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษารถด้วย
[row_inner_5] [col_inner_5 span__sm=”12″]5. การทนทานต่อการชะล้าง แรงดันน้ำ และสารเคมี เคลือบแก้วแท้จะเป็นการสร้างชั้นฟิล์มบางๆระดับไมครอนบนสีรถ และจะผสานติดเข้ากับชั้นสีรถไป โดยทนทานต่อการชะล้าง แรงดันน้ำ และสารเคมี โดยสามารถทดสอบประสิทธิภาพของเคลือบแก้วได้ด้วยการล้างรถ และการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ลักษณะของน้ำจะต้องปลิวออก หรือกลมนูนเสมือนหยดน้ำกลิ้งบนใบบอน โดยเคลือบแก้วจะไม่หลุดออกถึงแม้มีการฉีดน้ำแรงดันสูง หรือมีการล้างรถด้วยแชมพูล้างรถทั่วไป
6. ปัญหาการแตกร่อนของตัวแก้ว ในสมัยก่อนๆ เคลือบแก้วมีลักษณ์แข็งเป็นแก้วทำให้พบปัญหาการแตกร่อน หลังจากใช้งานไปสักระยะหนึ่ง บริษัทผู้ผลิตน้ำยาเคลือบแก้วจึงมีการพัฒนาน้ำยาเคลือบแก้วที่มีความยืดหยุ่น ไม่แข็งตัวเร็วจนเกินไป เพื่อลดปัญหาการแตกร่อน และช่วยให้การเคลือบแก้วง่ายขึ้นอีกด้วย
[row_inner_4] [col_inner_4 span__sm=”12″]วิธีการใช้งาน
1. ล้างรถหรือมอเตอร์ไซต์ให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
2. นำกระดาษที่อยู่ในชุดมาพันที่ฟองน้ำ แล้วลงนำยา
3.เวลาเคลือบให้ถูไปในทางเดียวกัน ขึ้น-ลง และ ซ้าย-ขวา
5. เมื่อเคลือบเสร็จแล้วทั้งคัน ให้รอประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้น้ำยาเซตตัว
6. หลังจากนั้น นำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้ทั่ว เช็ดเพื่อให้ชั้นฟิลม์เท่ากัน เสร็จเรียบร้อย
***ควรเว้นระยะการล้างรถอย่างน้อย 2-3 วัน หลังจากเคลือบน้ำยา เพื่อเป็นการทรงประสิทธิภาพให้มากขึ้น****
Promotion สุดพิเศษ
เพียงสั่งซื้อวันนี้รับไปเลย ซื้อ 1 แถม 1
ตั้งแต่วันนี้ – 05.11.2020
ข้อเสนอราคาสุดพิเศษ พร้อมอุปกรณ์เคลือบแก้ว และผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างดี