โปรเจคเตอร์ขนาดพกพาเป็นอีกอุปกรณ์ความบับเทิง ที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมเวลาไปตั้งแคมป์หรือไปต่างจังหวัดจัดกิจกรรมส่วนตัว เช่น โรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่บ้าน, โรงภาพยนตร์กลางแจ้งระหว่างแคมป์ปิ้ง, ปาร์ตี้คาราโอเกะ, เล่นเกมส์ รวมไปถึงการใช้งานในเชิงธุรกิจ เช่น การประชุมและการนำเสนองาน ซึ่งโปรเจคเตอร์ขนาดพกพานั้นสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ได้เลย นอกจากนี้ฟังค์ชั่นการใช้งานโปรเจคเตอร์ขนาดพกพาหลายๆ รุ่นนั้นรองรับความละเอียดได้ถึง Full HD และมีการติดตั้งแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมงครับ
หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโปรเจคเตอร์แบบไหนดี ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงวิธีการเลือกและแนะนำโปรเจคเตอร์รุ่นต่าง ๆมาจัดอันดับแนะนำให้เลือกดูกัน
1.ให้ดูเรื่องความละเอียดก่อน ที่แนะนำคือ 800 × 480 ขึ้นไป ต้องการคุณภาพสูงให้เลือก Full HD หากคุณกำลังมองหาโปรเจคเตอร์พกพาที่มีภาพที่ค่อนข้างละเอียด ให้เลือกรุ่นที่ความละเอียดมาตรฐานที่ 800 x 480 ขึ้นไป ความละเอียดจะแสดงด้วยตัวเลข เช่น 1024 × 768 ยิ่งตัวเลขสูง ความละเอียดของภาพก็จะสูงขึ้นตาม
2.เลือกจากน้ำหนักและขนาดที่พกพาสะดวก โปรเจคเตอร์ขนาดพกพาส่วนใหญ่นั้นออกแบบมากะทัดรัดสำหรับพกพาได้ง่าย เราแนะนำให้คุณเลือกโปรเจคเตอร์น้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม เพื่อความสะดวกในการขนย้าย
3.ดูความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่า 4000 mAh เพื่อขยายเวลาในการดูภาพยนตร์
4.ตรวจสอบการเชื่อมต่อว่าเป็นพอร์ต HDMI, USB หรือ Wi-Fi หรือช่องเชื่อมต่ออื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานครับ
5.เลือกจากระยะฉายและขนาดของภาพ และรุ่นโฟกัสสั้นหากใช้ในที่แคบ
6.เลือกจากกิจกรรมที่จะนำไปใช้ ถ้าฉายในที่มืด ค่าความสว่าง 100 lm / ที่แสงเยอะ ค่าความสว่าง 500 lm ขึ้นไป
หากโปรเจคเตอร์ขนาดพกพาที่คุณสนใจนั้นมีขนาดและราคาค่อนข้างใกล้เคียงกัน เราขอแนะนำให้คุณเลือกจากการเปรียบเทียบฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน
3 อันโปรเจคเตอร์ ขนาดพกพา ยอดฮิตขายดี
อันดับ 3 โปรเจกเตอร์ รุ่น YG300
เครื่องนี้มาพร้อมกับความสว่าง 50 Lumen และความละเอียดที่อาจจะน้อยไปสักหน่อยที่ 320x240Pixel แต่นั่นก็อาจจะเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานที่ไม่จริงจัง ตัวนี้ให้ช่องทางการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง HDMI / USB และอื่นๆ มีลำโพงในตัว ทำให้ใช้งานตรงไหนก็สะดวก เหมาะเป็นตัวเริ่มต้นทำความรู้จักโปรเจกเตอร์ว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใข้งานของคุณหรือไม่
ข้อดี
1.โปรเจกเตอร์เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน ราคาประหยัด
2.เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย
3.หลอดไฟใช้ได้ยาวนาน 30,000 ชั่วโมง
ข้อเสีย
ความละเอียดไม่สูงมาก
อันดับ 2 โปรเจคเตอร์ รุ่น YG400
มีลำโพงในตัว ปรับภาพคางหมูอัตโนมัติ เชื่อมต่อผ่าน WIFI โปรเจคเตอร์รุ่นนี้มีความละเอียดมาตรฐานที่ 800 x 480 สามารถรองรับความละเอียดขณะฉายภาพได้ที่ 1080P มาพร้อมกับลำโพงในตัว อายุการใช้งานของหลอด LED มีมากกว่า 30,000 ชั่วโมง และมี Keystone Correction ±15° ช่วยปรับภาพคางหมูอัตโนมัติทำให้ภาพไม่บิดเบี้ยวขณะฉาย
ข้อดี
1.โปรเจกเตอร์เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน ราคาประหยัด
2.เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย
3.หลอดไฟใช้ได้ยาวนาน 30,000 ชั่วโมง
4.มีระบบ Keystone ช่วยปรับภาพอัตโนมัติ
ข้อเสีย
1.โปรเจคเตอร์มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นอื่น
สนใจสอบถาม / สั่งซื้อ คลิกเลยอันดับ 1 โปรเจคเตอร์ รุ่น C80
รุ่นนี้มีความละเอียดมาตรฐานที่ 1280*800 พิกเซล FULL HD พร้อมระบบเสียงผสมสเตอริโอสไตล์โรงภาพยนตร์ ฮาร์ดแวร์ชิปหลัก: MSTAR V56 อายุการใช้งานของหลอดไฟ 30,000 ชั่วโมง ความสว่างไฟLED : 2800 แอนซิลูแมนส์ มีระบบปรับและแก้ไข Keystone: แนวตั้ง: +/-15 °/โฟกัสด้วยตนเอง พร้อมรีโมทคอนโทรล ลำโพงภายในตัวเครื่องขนาด 8Ω,5 W รองรับภาษาไทย
ข้อดี
1.โปรเจกเตอร์เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน ราคาประหยัด
2.เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย
3.หลอดไฟใช้ได้ยาวนาน 30,000 ชั่วโมง
4.มีระบบ Keystone ช่วยปรับภาพอัตโนมัติ
ข้อเสีย
1.โปรเจคเตอร์มีขนาดค่อนข้างใหญ่
เป็นไงกันบ้างครับสำหรับข้อมูลและวิธีการในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้งาน เบื้องต้นก็ขอแนะนำเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานจะดีที่สุดค่ะ ถ้าหากคุณลูกค้าได้ความรู้จากบทความนี้ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ ให้ด้วยนะครับ