วิธีการเลือกซื้อกล่องแอนดรอย ( Android box)

1.) สเปค ROM/RAM ของกล่องแอนดรอย

• เป็นหน่วยความจำชนิดหนึ่งที่จะเก็บความจำไว้ชั่วคราว เมื่อไม่มีไฟเลี้ยงแรมข้อมูลที่บันทึกไว้ในแรมก็จะหายไปหมด

  ในการใช้งานกล่องแอนดรอยแต่ละรุ่นจะมี สเปคของรอมและแรมกำกับไว้อยู่แล้วด้านหลังชื่อรุ่น เช่น Tx6 4/32GB คือ Tx6 แรม 4GB รอม 32GB แต่ละครั้งเมื่อเราเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นกล่องแอนดรอย เราขึ้นมา ข้อมูลของแอพพลิเคชั่นนั้นจะถูกเก็บไว้ในแรม ซึ่งเป็นข้อมูลชั่วคราว

  เมื่อคุณปิดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวลข้อมูลการใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ก็ยังคงอยู่ในแรมอยู่

  ในเวลาที่คุณเรียกแอพพลิเคชั่นเดิมขึ้นมาอีกครั้ง หน่วยประมวลผลจะดึงข้อมูลจากแรมก่อน นั้นส่งผลให้แอพพลิเคชั่นนั้นสามารถเรียกใช้งานและเปิดได้อย่างรวดเร็วขึ้น

  ในเมื่อแรมเป็นที่เก็บข้อมูลชั่วคราวยิ่งมีพื้นที่เก็บมากขึ้นเท่าไร นั่นก็แปลว่าเราสามารถเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราใช้งานได้เร็วขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ยิ่งแรมเยอะ ยิ่งทำให้การประมวลผลได้เร็วและดียิ่งขึ้น

  ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ มาทำความรู้จักรอมและแรมกัน

2.) ระบบ CPU ของ กล่องแอนดรอยด์

• ระบบ CPU เป็นเหมือนสมองของ กล่อง android box ยิ่งตัวระบบมีการอัพเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ยิ่งทำให้การใช้งานและการประมวลผลของภาพได้คมชัดยิ่งขึ้นครับ นอกจากนี้ระบบ CPU ที่นิยมใช้งานและมีปัญหาน้อยจะเป็นระบบของ S905X.. , Allwinner .. ซึ่งแต่ละระบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปครับ

3.) ช่อง Port เชื่อมต่อของ กล่องแอนดรอยด์

• ในแต่ละรุ่นของ กล่องแอนดรอยทีวี นั้นจะมี port ด้านหลังมีไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่นครับ แต่หลัก ๆ แล้วจะมี 1.HDMI port 2.LAN Cable port 3.Power port 4.USB port แต่ถ้าใครต้องการที่จะต่อเครื่องเสียงระบบ 5.1 ต้องใช้port Optical port ซึ่งบางรุ่นก็จะมีมาให้ บางรุ่นก็จะไม่มีมาให้ครับ 

4.) เวอร์ชั่น Android ของ กล่องแอนดรอยด์

• เวอร์ชั่นแอนดรอย ของกล่องนั้นถ้าให้เปรียบเทียบ ก็เหมือนการทำงานในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Android ก็จะเป็น android version ถ้าของ iPhone ก็จะเป็น iOS version ซึ่งตรงนี้ยิ่งเวอร์ชั่นใหม่เท่าไหร่ ยิ่งสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ ได้เยอะเท่านั้นครับผม